
กาฬโรคจู่โจมเหยื่อของมันโดยไม่เลือกว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน ดูเหมือนว่ามีแต่พ่อค้ากระเทียมเท่านั้นที่รอดพ้นจากเงื้อมมือมรณะของมันได้ ในหมู่พ่อค้าที่ขนกระเทียมไปเร่ขายตามเมืองต่าง ๆ แทบไม่มีคนใดติดโรคร้ายนี้เลย ผู้คนทั่วไปจึงสรุปว่ากระเทียมต้องมีสรรพคุณวิเศษอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นแน่ เลยพากันรับประทานกระเทียมเป็นการใหญ่ อีกทั้งยังแขวนพวงกระเทียมไว้รอบคอด้วย บรรดาชาวอาณานิคมในนิวอิงแลนด์ (อเมริกา) ยิ่งล้ำหน้ากว่าชาวยุโรป พวกเขาสวมพวงกระเทียมไว้รอบเท้าเพื่อป้องกันภัยกล้ำกรายจากโรคฝีดาษด้วย

ผู้คนในสมัยนั้นยังไม่ทราบเลยว่ากาฬโรคเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย หลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur)มาค้นพบในปี ค.ศ. ๑๘๕๘ ว่ากระเทียม (Allium sativum) มีน้ำมันซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรียและป้องกันการติดเชื้อ เรียกว่า แอลลิซิน (allicin) เป็นไปได้ว่าการที่พวกพ่อค้ากระเทียมต้องสัมผัสใกล้ชิดกับสมุนไพรวิเศษนี้อยู่เสมอ มีผลให้เชื้อแบคทีเรียในร่างกายของพวกเขาถูกกำจัดออกไป และก็เป็นไปได้อีกเช่นกันว่ากลิ่นฉุนของกระเทียมกันชาวบ้านให้อยู่ห่าง ๆ จึงช่วยป้องกันโรคระบาดไม่ให้แพร่กระจายมาถึงตัวพ่อค้ากระเทียมได้ อย่างไรก็ตามความเชื่อว่ากระเทียมสามารถขับไล่ผีดูดเลือดได้นั้นยังเป็นข้อกังขาอยู่

ทุกวันนี้เรามีความรู้ด้านสุขอนามัยเพิ่มมากขึ้น แต่กระเทียมยังคงเป็นที่นิยมบริโภคเหมือนที่เป็นมาในอดีตกระนั้นก็ตามความนิยมสมุนไพรชนิดนี้ในสหรัฐอเมริกาเพิ่งเริ่มขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง ก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ไม่มีการปลูกกระเทียมเลยในประเทศนั้นจนเมื่อรัฐบาลต้องการกระเทียมแห้งจำนวนมหาศาลเพื่อส่งให้แก่ทหารในแนวรบเกษตรกรชาวอเมริกันจึงเริ่มปลูกกระเทียมกันอย่างจริงจังในปัจจุบันรัฐแคลิฟอร์เนียมีผลผลิตกระเทียมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา
ขัอมูลจาก : http://kungsss.exteen.com/20070501/entry